พิธีเช้าของเราเป็นงานหมั้น
เป็นพิธีทางเหนือ นั่นคือการผูกข้อไม้ข้อมือ ซึ่งงานเช้าเราจัดที่บ้านฝ่ายชายค่ะ
เนื่องจากว่า ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวเล็ก ญาติไม่เยอะ
จะเดินทางมาร่วมงานที่เชียงใหม่สะดวกมากกว่าที่จะให้ครอบครัวฝ่ายชายเดินทางไปที่บ้านเรา
เพราะครอบครัวแฟนเราเป็นครอบครัวใหญ่ และญาติๆเยอะค่ะ (บ้านเราอยู่ที่ลำปางจ้า
ส่วนบ้านคุณแฟนอยู่เชียงใหม่)
1.สถานที่จัดงานเช้า : ที่บ้าน
ข้อดีของการจัดงานที่บ้าน
(อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราเองนะคะ)
1.1 จัดงานที่บ้าน
บรรยากาศจะค่อนข้างอบอุ่นกว่าจัดที่โรงแรม เพราะว่า ก่อนวันงาน2-3วัน
ที่บ้านแฟนเราจะทำอาหารเลี้ยงคนที่มาช่วยงาน และญาติๆก็มานั่งทานข้าวด้วยกัน
และช่วยกันเตรียมงาน เป็นบรรยากาศบ้านๆ สบายๆ เน้นแบบครอบครัวค่ะ
ซึ่งตรงนี้เราว่าได้สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวร่วมกันด้วย
และคนแถวๆบ้านก็จะมาช่วยกันเตรียมงาน เตรียมอาหาร ไดนั่งคุยกัน หัวเราะกัน
สนุกดีค่ะ
1.2 ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าจัดที่โรงแรม
ถึงแม้ว่าจัดที่บ้านจะต้องเสียค่าเช่าของต่างๆที่จะใช้ในพิธี
แต่เราคิดว่าราคาโดยรวมแล้วก็น่าจะถูกกว่าจัดที่โรงแรม เพราะว่าไม่ต้องเสียค่าสถานที่
แต่ทั้งนี้ก็อาจจะขึ้นอยู่กับจำนวนแขกที่เชิญมา หรือ
ขนาดของห้องที่จะใช้ทำพิธีของโรงแรมนั้นๆ
ข้อเสียของการจัดงานที่บ้าน (อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราเองนะคะ)
1.1 ต้องเหนื่อยมากกว่าจัดที่โรงแรม
เพราะต้องออกทั้งแรงกายและแรงใจ
ในการจัดเตรียมสถานที่ให้มีพื้นที่กว้างพอที่จะทำพิธีและเตรียมสถานที่ภายในบ้านให้รับกับจำนวนแขกที่จะมาร่วมงาน
1.2 ที่จอดรถ
อาจจะมีไม่เพียงพอและไม่สะดวกเหมือนจัดงานที่โรงแรม
** อันนี้เป็นรูปสถานที่ ที่จัดพิธีงานเช้า

** รูปพิธีเช้าโดยภาพรวม


** อันนี้เป็นรูปเราเองจ้า ตอนพิธีเช้า

** หลังจากทำพิธีสู่ขอเรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นพิธีผูกข้อไม้ข้อมือ ซึ่งมีพ่อหนานมาทำพิธี "ฮ้องขวัญ" ให้คู่บ่าวสาว

2.ชุดเจ้าบ่าว-เจ้าสาว งานเช้า
เนื่องจากว่าเราและคุณแฟนได้เคยไปลองชุดไทยกันมาแล้ว แต่คิดว่าไม่น่าจะเหมาะกับเราทั้งคู่ เราสองคนเลยมองหาชุดที่สากลนิดนึง คือไม่ถึงกับเป็นชุดไทย มีสไบ แต่ก็ยังคงความเป็นไทยอยู่บ้างและเป็นชุดที่ดูเรียบร้อย ทีนี้เราไปดูแพ็คเกจที่ Le Studio Chiang Mai เพราะว่าพี่ชายของคุณแฟนเราและแฟนเรารู้จักกับพี่นัท ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน เราไปดูแพ็คเกจ ซึ่งโอเคเลย ได้เกือบครบทุกอย่างในที่เดียว (ในแพ็คเกจที่เราซื้อจะไม่มีของชำร่วย, วีดีโอพรีเซนเทชั่น และออแกไนซ์จัดงานจ้า) และราคาของแพ็คเกจก็สมเหตุสมผลด้วย เราดูจากผลงานของทางร้านที่ผ่านมาด้วย เลยตัดสินใจใช้บริการที่ Le Studio Chiang Mai
จากนั้นก็เลยเริ่มจากชุดงานเช้า ซึ่งพี่นัทก็ถามเราว่าโอเคมั้ย พี่อยากลองทำชุดแบบชมพู่ อารยา เพราะตอนนั้นเราเริ่มเตรียมงานตั้งแต่ต้นปี หลังจากงานแต่งชมพู่ เราก็โอเคนะ ตอนนั้นคิดว่าได้หมด อะไรก็ได้ แบบชมพู่ก็สวยดี แต่กังวลว่าเราใส่ออกมาจะไม่ชมพู่สิ จะเป็นอย่างอื่นไปมากกว่า 55555+
ส่วนชุดคุณเจ้าบ่าวก็เลือกเอาสีเทาจ้า ถ้างานเช้าเลือกสูทสีน้ำเงิน ก็คิดว่าอาจจะใกล้เคียงกับใส่สีดำ เพราะงานกลางคืนคุณเจ้าบ่าวจะใส่ชุดทักซิโด้สีดำจ้าาา
** อันนี้เป็นรูปชุดแบบตัวเต็มน้าาา

หลังจากทำพิธีส่งตัวเจ้าบ่าว-เจ้าสาวแล้ว ก็เป็นอันเสร็จสิ้นในส่วนของพิธีงานเช้า หลังจากนั้นก็เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติรับประมานอาหารกลางวันร่วมกันค่ะ
3.แหวนแต่งงาน : Ananta Fine Jewely
เราคิดว่าแหวนแต่งงานก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ เพราะจะต้องเป็นสิ่งที่อยู่คู่กายเราสองคนไปตลอดชีวิต เริ่มแรกเราก็หาข้อมูลจากพันทิปก่อน ว่า การซื้อเพชรต้องดูยังไง เนื่องจากว่าเรากะคุณแฟนไม่เคยซื้อเพชรเลยค่ะ ละก็หาข้อมูลว่า ส่วนมากคนที่จะแต่งงาน เค้าไปซื้อแหวนแต่งงานกันที่ร้านไหน ซึ่งเราก็ไปร้านดังร้านหนึ่งที่เพื่อนๆในพันทิปแนะนำต่อๆกันมา (แต่ขอสงวนชื่อร้านนะคะ เนื่องจากว่าเรามีเหตุการณืที่ไม่ค่อยประทับใจกับร้านนี้ และไม่ได้ต้องการทำให้ทางร้านเสื่อมเสียค่ะ) ร้านแรกที่เราไปดู อยู่ที่มาบุญครองค่ะ พอเราไปถึงร้าน อันดับแรกคือ คนเยอะมาก แทบจะเข้าไปดูแหวนที่ใส่โชว์ในตู้ได้เลย แต่สุดท้าย เรากับคุณแฟนก็กระดึ๊บๆเข้าไป จนไปนั่งดูแบบหน้าตู้เพชร คนขายก็สอบถามประมาณว่า อยากได้แบบไหน อยากได้กี่กะรัต น้ำแบบไหน มีงบเท่าไหร่ ซึ่งเราอยากได้เม็ดกลางแบบครึ่งกะรัต แต่ทางร้านสินค้าหมด (คือเค้าจะมีlistให้เราดูด้วยว่า ขนาดเพชรที่เราต้องการนั้น ขายไปแล้วรึยัง) ซึ่งแบบครึ่งกะรัตที่เราอยากได้นั้น ขายไปหมดแล้ว เราก็โอเคค่ะ ลดลงก็ได้ ขนาด 0.47 หรือ 0.48 ก็ได้ แต่สินค้าก็ไม่มี เราก็โอเค งั้นไว้มาดูใหม่ตอนของล็อตใหม่มาก็ได้ แต่คนขายก็พูดประมาณคะยั้นคะยอ ว่า ล็อตใหม่จะมีมารึป่าวก็ไม่ชัวร์นะ กึ่งๆจะให้ซื้อวันนั้นเลย แต่เรายังไม่ซื้อค่ะ เราเลือกไปที่ร้านอนันทา และเราตัดสินใจซื้อที่นี้
เดี๋ยวมาต่อนะคะ ต้องไปทำงานแว้วววว
มาถึงส่วนในงานฉลองมงคลสมรสตอนเย็นเลยนะคะ
1.สถานที่ : โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว เชียงใหม่
เนื่องจากว่าคู่เราจองสถานที่ช้ามาก คือไม่ได้จองตั้งแต่ได้ฤกษ์มา พอจะเริ่มจองสถานที่ ปรากฏว่า โรงแรมต่างๆถูกจองไปเต็มหมดแล้ว ทางฝ่ายขายโรงแรมก็แจ้งว่า บ่าวสาวบางคู่ก็จองไว้ข้ามปีเลย หรือบางโรงแรมก็ยังพอมีห้องจัดเลี้ยงว่างอยู่บ้าน แต่เป็นห้องที่จุคนได้ประมาณ 200 คน ซึ่งแขกในงานเรา เราแจกการ์ดเชิญประมาณ 300 ใบ เลยคิดว่าถ้าห้องจัดเลี้ยงมีขนาดเล็กไปเลยไม่ดีแน่ๆ
ด้วยความที่พี่ชายของคุณแฟนเรา ได้คุยกับผู้จัดการโรงแรมโลตัสปางสวนแก้วไว้คร่าวๆแล้ว ว่าวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่บ้านจะมีงานแต่ง เลยคอนเฟิร์มทันทีค่ะ เราจัดเลี้ยงที่ห้องป่าสักหลวง ซึ่งเป็นห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ จุคนได้ถึง 550 คน ซึ่งโอเคมากๆสำหรับเลย แขกที่มางานจะได้ไม่อึดอัดค่ะ
2.ออแกไนซ์จัดงาน : เป็นทีมงานของพี่ชายเราเองค่ะ
3.ช่างแต่งหน้า : พี่เอ็มมี่
4.ชุดเจ้าบ่าว-เจ้าสาว
5.ของชำร่วย